บอร์ด DHOUSE อนุมัติปันผล 0.03 บาทต่อหุ้น เตรียมออกหุ้นกู้ 500 ล้านบาท เดินหน้าขยายธุรกิจตามแผน ตั้งเป้าปี 64 รายได้โตกว่า 200 ล้านบาท
บอร์ด DHOUSE อนุมัติปันผล 0.03 บาทต่อหุ้น เตรียมออกหุ้นกู้ 500 ล้านบาท
เดินหน้าขยายธุรกิจตามแผน ตั้งเป้าปี 64 รายได้โตกว่า 200 ล้านบาท
บอร์ด DHOUSE อนุมัติปันผล 0.03 บาทต่อหุ้น กำหนดจ่าย 5 พ.ค.64 เตรียมออกหุ้นกู้ 500 ล้านบาท เดินหน้าตามแผนเปิด 2 โครงการใหม่ พร้อมส่งบริษัทลูก ดำเนินธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน สร้างรายได้ประจำ ตั้งเป้าปี 64 รายได้โตกว่า 200 ล้านบาท รักษาอัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 50% และอัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 20% เผยงบปี 63 รายได้ 92.70 ล้านบาท กำไร 14.94 ล้านบาท
นายพงศ์พจน์ เลิศรุ้งพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีเฮ้าส์พัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ DHOUSE ผู้นำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดมหาสารคาม ประเภทที่อยู่อาศัยและเชิงพาณิชย์เพื่อขายหลากหลายรูปแบบ อาทิ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม โฮมออฟฟิศ และอาคารพาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติจ่ายปันผลผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.03 บาท โดยจะจ่ายเงินปันผลงวดผลประกอบการปี 2563 เป็นเงินสดทั้งสิ้นไม่เกิน 25.20 ล้านบาท กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล(Record Date) วันที่ 24 มี.ค.64 และจ่ายปันผลในวันที่ 5 พ.ค.64 (ขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 26 เม.ย. 64)
นอกจากนี้ ยังมีมติอนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 500 ล้านบาท เพื่อนำเงินไปใช้ในการ พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการบริษัทเห็นสมควร
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี2564ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียลงทุน 2 โครงการใหม่ คือ โครงการ U Park เตรียมเปิดขายไตรมาส 1/64 และ โครงการแกรนด์บิซ 2 เตรียมเปิดขายโครงการไตรมาส 2/64
ล่าสุดการจัดตั้งบริษัทย่อย บริษัท ดีกรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทให้เช่า ธุรกิจค้าปลีก หรือลงทุนในธุรกิจอื่น โดยเข้าซื้อกิจการบริษัท ดี เอนเนอร์จี แอนด์ รีเทล จำกัด ปัจจุบันอยู่ระหว่างการยื่นขอเป็นผู้แทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ประเภทสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง และร้านค้าภายในสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อสร้างรายได้ประจำ อีกทั้งเป็นการกระจายที่มาของรายได้ สร้างโอกาสการเติบโตให้แก่บริษัทในระยะยาว โดยบริษัทตั้งเป้าปี 64 รายได้ 200 ล้านบาท รักษาอัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 50% และอัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 20%
ขณะที่ผลประกอบการปี 2563 บริษัทมีรายได้จากการขาย 92.70 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 142.52 ล้านบาท จำนวน 50.10 ล้านบาท หรือลดลง 35.19% และมีกำไรสุทธิ 14.94 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 40.72 ล้านบาท จำนวน 25.78 ล้านบาท หรือลดลง 63.31%
ทั้งนี้ผลประกอบการของบริษัทชะลอตัวลง เนื่องจากได้รับผลกระทบทางอ้อมจากการแพร่ระบาดของ COVID – 19 ทำให้มีการขาดแคลนแรงงานที่ใช้ในการก่อสร้างชั่วคราว ส่งผลให้เกิดความล่าช้าในการพัฒนาโครงการให้แล้วเสร็จตามแผนการก่อสร้าง ซึ่งปัจจุบันกลับสู่สภาพปกติแล้ว อีกทั้ง บริษัทมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายทางการตลาดสำหรับเตรียมการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนครั้งแรก (IPO) ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นครั้งเดียว